วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553


ในสังคมปัจจุบันนี้เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ที่คนส่วนใหญ่มิได้ให้ความสำคัญ

กับอาหารเช้า เนื่องจากต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาเพื่อไปเรียน หรือ ไปทำงาน
คนไทยเราจะให้ความสำคัญกับอาหารเย็น เน้นว่าเป็นมื้อที่ต้องรับประทาน
อาหารหนักๆ มากกว่ามื้ือกลางวัน ส่วนมื้อเช้านั้นบางคนข้ามไปเลย
บางคนก็ดื่มกาแฟเพียง 1 ถ้วยเท่านั้น สังเกตให้ดีจะพบว่าคุณจะรู้สึกไม่สดชื่น
กระปรี้กระเปร่า ถ้ามื้อเช้าคุณไม่ได้ให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการ คือ
อาหารโปรตีนสูงและไขมันอย่างพอเพียง อาหารเช้าที่หนักเกินไปก็เป็นเรื่อง
ที่ไม่ถูกต้อง ร่างกายต้องการเพียงสารอาหารที่ครบถ้วนในปริมาณไม่มากนัก
เพื่อที่คุณจะได้มีกำลังวังชา สมองปลอดโปร่ง กระปรี้กระเปร่า พลังงานจะอยู่
ในร่างกายคุณเป็นเวลานานและทำให้คุณไม่หิวบ่อยถ้าได้รับประทานอาหารเช้าที่ดี


การรักษาสุขภาพร่างกายให้หุ่นดีด้วยการบริหารการกิน



ทำได้ยากเหลือเกิน เพราะจะต้องควบคุมในเรื่องของการรับประทาน


ไปหมด แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณหุ่นสวยได้โดยไม่ต้องงดอาหาร


ก็คือ ให้ัรับประทานอาหารเ่ช่นเดิม แต่ให้หันมาใส่ใจความรู้สึก


ให้มากขึ้น เมื่อคุณรู้สึกอิ่มเมื่อไหร่ให้คุณหยุดทานทันที



คนเราเมื่ออายุมากขึ้น ความจำแทนที่จะเพิ่มขึ้นแต่


กลับลดลงสำหรับคุณๆ ที่กลัวว่าจะกลายเป็นคนอัลไซเมอร์

ควรจะเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มความจำ อาหารที่มีประโยชน์

ในการบำรุงสมองนั้น จำพวกผัก ได้แก่ บรอกโคลี่ มะเขือเทศ

เมล็ดฟักทอง ส่วนธัญพืชต่างๆ ได้แก่ รำข้าว ข้าวซ้อมมือ

ไขมันจากปลา ซีเรียลถั่ว บูลเบอร์รี่ อาหารจำพวกนี้ล้วนแต่

ช่วยบำรุงสมองทำให้ความจำดีขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553


เครื่องดื่มสุขภาพ - น้ำตะไคร้




ส่วนผสม

-ตะไคร้ทั้งต้นและใบ 1 กิโลกรัม

-น้ำเปล่า 4 ลิตร
-น้ำตาลทราย 400-700 กรัม
-กรดมะนาว 0.5-1 กรัม

วิธีทำ


- ล้างตะไคร้ให้สะอาด ตัดเป็นท่อนสั้นๆ นำไปต้มกับน้ำเปล่า 4 ลิตร ประมาณ 5-10 นาที แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง 2-3 ชั้น เพื่อกันไม่ให้มีเศษตะกอนของใบตะไคร้
- ผสมน้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลละลายหมด ถ้าชอบรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย ให้เติมกรดมะนาว เพื่อความชุ่มคอชื่นใจ แล้วกรองอีกครั้ง ตั้งให้เดือด 1-2 นาที ยกลงกรอกใส่ขวดแก้วที่ล้างสะอาด คว่ำให้แห้ง ขณะร้อนอุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส ถ้ากรอกลงขวดพลาสติก ต้องลดให้อุณหภูมิ 68 องศาเซลเซียส กรอกให้เต็มขวด ปิดฝาให้สนิท แล้วแช่น้ำเย็นทันที เมื่อขวดเย็น ให้รีบนำเข้าตู้เย็น สามารถเก็บไว้ได้ถึง 14 วัน

คุณค่าทางอาหาร : มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม และฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหาร
คุณค่าทางยา : แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดี ช่วยลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกาย รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิตสูง

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553


พระเยซูคริสต์
พระเยซูคริสต์เป็นศาสดาคนเดียวของโลกที่อ้างว่าตนเองคือพระเจ้า พระองค์เป็นศูนย์กลางของคริสตศาสนา เป็นผู้ซึ่งคริสตชนทั่วโลกกว่าหนึ่งพันล้านคนนมัสการว่าเป็นพระเจ้า หากจะพูดว่า "คริสตศาสนาคือพระเยซูคริสต์” ก็ไม่ผิด เพราะคริสตชนนมัสการตัวบุคคลที่ชื่อว่าเยซูคริสต์ และเชื่อว่าพระองค์เป็นพระเจ้าผู้มาเกิดในสภาพมนุษย์ หากถามว่า "ความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์สำคัญเพียงไรต่อความเชื่อของคริสตศาสนา" ตอบได้ว่า สำคัญมาก สำคัญพอ ๆ กับความอยู่รอดของคริสตศาสนาทีเดียว เพราะหากเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าพระเยซูคริสต์ไม่ได้เป็นพระเจ้าตามที่ พระองค์อ้างไว้ หรือหากเราสามารถยืนยันได้ว่าพระเยซูไม่ได้ทำสิ่งที่พระองค์ตรัสว่าจะกระทำ แล้ว คริสตศาสนาก็ไม่อาจดำรงอยู่ได้ เพราะนั่นเท่ากับว่าคริสตศาสนาตั้งอยู่บนพื้นฐานของการโกหกพกลม แต่ขณะเดียวกัน หากเราสามารถยืนยันโดยเหตุผลทั้งในทางตรรกวิทยา หลักฐานทางประวัติศาสตร์ และประสบการณ์จากชีวิตจริงว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้าในสภาพมนุษย์จริง ๆ ปัญหาต่าง ๆ ที่เราคิดว่าเป็นปัญหาก็จะหมดไป เช่น "พระเจ้ามี จริงหรือ" "พระลักษณะของพระเจ้าเป็นอย่างไร" "มนุษย์คือใคร" "อยู่เพื่ออะไร" "กำลังจะไปไหน" เป็นต้น เพราะพระเยซูคริสต์ได้สำแดงพระลัษณะของพระเจ้าให้ปรากฎชัดแล้วในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ และพระองค์ยังได้สอนถึงเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ที่เราทั้งหลายสงสัยด้วย แน่นอนที่สุด ถ้าพระเยซูเป็นพระเจ้าดังที่พระองค์อ้างจริง ๆ คำสอนของพระองค์ก็ต้องเป็นความจริง
หอไอเฟล
หอไอเฟล (ฝรั่งเศส: Tour Eiffel, อังกฤษ: Eiffel Tower) หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย
หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลมีความสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) (รวมเสาอากาศสูง 24 เมตร (79 ฟุต)) ซึ่งก็สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น
เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรีย์วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ปัจจุบันฟอไอเฟลสูงเป็นอันดับที่ 5 ในประเทศฝรั่งเศสและสูงที่สุดในกรุงปารีส ซึ่งอันดับสองคือหอมงต์ปาร์นาสส์ (Tour Montparnasse - 210 เมตร หรือ 689 ฟุต) ซึ่งในไม่ใช้จะถูกแทนที่โดยหออาอิกซ์อา (Tour AXA - 225.11 เมตร หรือ 738.36 ฟุต) หอไอเฟลมีความสูง 300 เมตร (986 ฟุต) ซึ่งไม่รวม เสาอากาศ 24 เมตร (72 ฟุต) ด้านบนนั้น ถ้าเปรียบเทียบกับตึกแล้วจะมีประมาณ 75 ชั้น ในขณะที่ก่อสร้างปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดบนโลก โดยถูกล้มตำแหน่งเมื่อเมืองนิวยอร์กได้สร้าง สูง 319 เมตร (1047 ฟุต)
น้ำหนักเหล็กที่ใช้ก่อสร้างนั้นทั้งหมด 7,300 ตัน และถ้ารวมทั้งหมดก็เป็น 10,000 ตัน ส่วนจำนวนบันไดนั้นเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อแรกเริ่มนั้นมี 1710 ขั้น ในทศวรรษที่ 1980 มี 1920 ขั้น และในปัจจุบัน มี 1665 ขั้น